วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

นามที่ใช้บ่อย

Narin Putanaaarat779-6206 หัวหน้ากองรวห. อหฟ. กฝทฟ-ห.42930
Paweena Thadee779-6206โรงไฟฟ้าแม่เมาะพนักงานวิชาชีพระดับ 6รวห. อหฟ. กฝทฟ-ห.47950
Maliwan Tayatan779-6206 วิทยากรระดับ 7รวห. อหฟ. กฝทฟ-ห.430129

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

แม่และน้าชาย

ผมคิดถึงแม่
เดือนนี้ในวันที่ 23 กันยายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของแม่ ถ้าแม่ยังอยู่แม่จะมีอายุครบ 78 ปี
คิดถึงแม่เพราะตั้งแต่เสียแม่ไปแล้ว ผมตั้งใจจะระลึกถึงพระคุณ และความดีที่ท่านทำให้กับผม และน้องๆ แล้วจดบันทึกไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือเป็นเรื่องเป็นราว ลองทำไว้ใน Geocities ที่ใช้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ Geocities ก็จะปิดตัว(ฟรี) ลง หากต้องการคงไว้ ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันถ้าจะทำบันทึกไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายก็ได้ มีทางเลือกอีกมาก
ในเช้าวันนี้ ผมได้เดินออกกำลังกาย ในระหว่างเดินนอกจากคิดถึงแม่แล้ว ยังคิดถึงน้าชายด้วย นึกถึงตอนที่แม่ไม่อยู่บ้านเมื่อผมยังเป็นเด็ก อายุประมาณ 11 ขวบ เท่ากับลูกชายผมตอนนี้ และแม่ก็ประมาณลูกสาวคนโตของผม 32 ปี แม่ให้ผมอยู่ก้ับน้าชาย และกว่าแม่จะกลับก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว
ผมเป็นเด็กที่ก้าวร้าว มีเรื่องขัดใจกับน้าชาย ประมาณว่ารุนแรง น้าชายจึงจับผมโยงกับขื่อให้ขาพ้นพื้นนิดหน่อย พอเขย่งจึงจะประคองไม่ให้ข้อมือและแขนเจ็บ ถ้าเขย่งจนเมื่อยก็ต้องปล่อยให้แขนเจ็บจึงจะพักขาได้ ผมถูกโยงอยู่อย่างนั้น คลั่งแค้นตามประสาเด็ก แต่น่าแปลกที่ผมไม่ยอมร้องไห้ ไม่ยอมจำนน ไม่ยอมขอโทษเพื่อจะได้พ้นจากทุกขเวทนานั้น
ผ่านไปนาน ไม่ได้ทานข้าวกลางวัน ไม่ยอม ไม่ร้องขอ ไม่ก่นด่า น้าชายถามผมว่าจะยอมไหม ถ้ายอมจะปล่อย ผมไม่ตอบ ว่ายอมแต่ตอบว่า ก็ได้ น้าชายผมเข้ามาจะแก้มัด แต่ผมใช้มือจับเชือกโหนขึ้นแล้วเกร็งตัวขึ้นถีบใบหน้าเขา สะใจผมในตอนนั้น แต่ก็ต้องห้อยโหนอยู่อย่างนั้นจนแม่กลับมา
เมื่อแม่ปล่อยผม แม่ร้องไห้ ผมก็ร้องไห้ แม่บอกว่าตั้งแต่นี้ต่อไปแม่จะไม่ให้ผมอยู่คนเดียวอีกแล้ว แม่จะไม่ให้ใครมารักแกลูกของแม่ คิดถึงตอนนั้นผมยิ่งรักแม่ขึ้นไปอีก
ผมบอกกับแม่ว่าไม่มีใครมารักแกผม ผมทำตัวไม่ดีเอง แม่อย่าร้องไห้ ผมขอโทษที่ทำให้แม่เสียใจ แต่ผมไม่เคยลืมสิ่งที่น้าชายทำกับผม
ผมเจ็บจำมาหลายปี จนกระทั่งมีลูก ผมเคยทำร้ายลูกมากมาย ทารุณโหดร้าย ทั้งกายและจิต มันเป็นสิ่งสืบเนื่อง นอนในจิต สืบต่อเป็นวัฏฏะ
เวลาผ่านมานานแล้ว ในวันนี้ อายุ 57 ผมไม่ได้เจ็บอีกต่อไป เมื่อไตร่ตรองดูผมได้เรียนรู่้มากมาย
ผมต้องขอโทษอีกหลายครั้งที่ทำให้แม่เสียใจ ผมเคยเมาเหล้าอาละวาดพังประตูรั้วบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สร้างความเสียใจให้กับแม่ เมื่อผมทำงานผมได้ตอบแทนแม่ด้วยความรักมาโดยตลอดจนถึงวาระสุดท้ายของแม่
ผมนึกถึงน้าชายซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของแม่ แม่มีน้องชายเพียงสองคน คนถัดจากแม่เสียไปนานแล้ว เมื่อผมปลดจากทหารเกณฑ์ในปี 2517 ตกงาน น้าชายคนถัดจากแม่เป็นคนให้งานผมทำ เป็นคนส่งข้าวสารในเรือ ผมอยู่กับน้าไม่นาน น้าชายคนสุดท้องได้มาตามไปทำงานซึ่งผมได้ทำอยู่จนเกือบจะเกษียณในอีก 1121 วันข้างหน้า
ชีวิตการทำงานน้าชายคนสุดท้องได้ช่วยผมไว้หลายประการ ทั้งจากความผิดที่ผมทำทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ เมื่อสิ้นบุญแม่น้าชายคนสุดท้องได้มาเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิงแม่ด้วย
ผมขอบคุณต่อความระลึกถึงความเป็นมาในอดีต ด้วยจิตนอบน้อม
ไม่มีสิ่งใดดีหรือไม่ดี ดีหรือไม่ดีมนุษย์เป็นผู้ให้ค่าความดีไม่ดีนั้น
ไม่ติดในความดีหรือไม่ดี หยุดตำหนิตนเอง คิดที่จะหาช่องทางพัฒนา
เมื่อเราเรียนรู้จากทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา เราสามารถจะพัฒนาตนไปสู่จุดสูงสุดของมนุษย์ได้
ด้วยจิตนอบน้อม

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปัจเจกชนกับคุณค่าของคน

ปัจเจกชน คนเดียวดายสร้างคุณค่าจากการฝึกตน เมื่อฝึกจึงมีคุณค่า แต่เป็นไปในวงแคบเฉพาะตน หากจะต้องมีการกระจายคุณค่า ฝึกมาเท่าใดหากไม่มีจิตเมตตา คงไม่มีการแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง การเแพร่กระจาย ต้องอาศัยผู้อื่น ให้และรับ คุณค่าจะเพิ่มพูนได้โดยความสัมพันธ์
เมตตาเป็นฐานของการเชื่อมต่อ คุณค่าจึงสนองต่อชีวิตและองค์กรด้วย

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การดำรงอยู่กับคุณค่าอย่างยั่งยืน

ความเข้าใจในธรรมชาติของคุณค่า
คุณค่าที่แท้จริงขององค์กรหนึ่งๆ ขึ้นอยู่กับความคิดของสมาชิก ความคิดเกี่ยวกับทั้งหมดที่เป็นการเห็นในภาพรวมของสิ่งที่องค์กรต้องทำ เห็นเป็นภาพต่อเนื่องทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คิดวิเคราะห์ถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งตนเอง เพื่อนำคุณประโยชน์มาหล่อเลี้ยงให้เกิดคุณค่า

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความคงอยู่อย่างมีคุณค่าและยั่งยืน

ผมได้รับคำถามที่จะต้องตอบ เกี่ยวกับ การดำรงอยู่อย่างมีคุณค่าและยั่งยืน จากองค์กรที่ผมสังกัดอยู่

จากคำถามคือความมีคุณค่า และความยั่งยืน จะดำรงอยู่ได้อย่างไร

คุณ ค่านั้นมีสองส่วนที่ประสานกัน คุณค่าภายใน นำมาซึ่งคุณค่าภายนอก
คุณค่าภายใน องค์กรขึ้นกับความเป็นเครือข่ายที่เหนียวแน่นของสมาชิก สมาชิกขึ้นอยู่กับแรงขับดันภายในตนและแรงดึงจากภายนอก แรงขับดันภายในตนขึ้นกับทัศนคติ ทัศนคติของตนขึ้นกับความคิดของสมาชิกแต่ละท่าน แรงดึงภายนอกนั้นยึดโยงกับความคิดภายในตนของสมาชิก ดังนั้นคุณค่าจึงขึ้นกับความคิดของสมาชิกแต่ละท่าน คณะกรรมการเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมาชิก แต่เป็นส่วนที่มีโอกาสที่จะสร้างให้เกิดคุณค่าได้โดยการหลอมรวมความคิดให้ไป สู่ความมีคุณค่า

ความยั่งยืน โดยธรรมชาติไม่มีสิ่งใดที่ยั่งยืน เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไปเป็นธรรมดา แต่ความยั่งยืนที่สัมผัสและมองเห็นได้คือการสืบต่อ(สันคติ) การสืบต่อจะเกิดได้ต้องมีการเลื่อนไหล การเลื่อนไหลต้องมีกิจกรรมเป็นรูปธรรม และมีวัตถุประสงค์เป็นนามธรรม

ทั้งคุณค่าและความยั่งยืน ต้องขึ้นอยู่กับความเข้าใจที่ถูกต้องตามความเป็นจริง จึงจะสร้างคุณค่าและความยั่งยืนได้

สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ ธรรมชาติของคุณค่าและความยั่งยืน และสมาชิกได้ดำรงอยู่อย่างสอดคล้องกับสี่งนั้นอย่างเป็นเนื้อเดืยวกัน

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การเปลี่ยนแปลง

ความต้องการของคนเราสื่อสารกันด้วยคำพูด
การตกจมในความคิดและติดยึดด้วยความกลัว ทำให้ความเป็นไปของปัจจุบันได้สูญเสียความเป็นตัวตนของตนไป
ไม่มีความปรารถนาใดสำเร็จได้ดว้ยความกลัว
จงไปข้างหน้าแล้วขับดันตนไปด้วยความรัก
เพราะความรักเป็นอาวุธของพระเจ้า
จงไปข้างหน้าแล้วขับดันด้วยความจริง
เพราะความจริงเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความฝันและความจริง ความรักและความเกลียด

ความฝัน บางครั้งนำมาซึ่งภัย เมื่อฝันเป็นเสียงดัง
ความจริง บางครั้งนำมาซึ่งภัย เมื่อจริงเป็นในใจเราแต่เป็นความเท็จในใจเขา

ความรู้สึกขัดแย้งมีมาแต่นานมากแล้ว มีผู้สังเกตเห็นสิ่งที่เป็นของคู่กัน เป็นธรรมคู่ ที่ต้องเข้าใจว่าเป็นสองด้านของสิ่งเดียวกัน ไม่มีทางแยกกันอยู่

ความรักและความเกลียด ก็เช่นเดียวกัน เป็นของคู่กัน อยู่ที่เราจะเรียนรู้ที่จะใช้ปัญญาจัดการมันได้อย่างไร วันนี้รัก พรุ่งนี้เกลียด ไม่ใช่เรื่องแปลก หากเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกนั้นอย่างไม่ขัดแย้ง ไม่ปกป้อง ใช้สติป้ญญาที่มีสร้างกำลังใจ เรียนรู้ความเป็นธรรมดาของความรักและความเกลียด ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน แต่อยู่บนความเห็นที่แตกต่างกัน

ความขัดแย้งสับสน เกิดขึ้นจากเรา การที่เราให้ความหมาย การที่เราได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝัง
บางครั้งเราพยายามรักด้วยเหตุผล แต่ไม่มีกำลังเหนือความเกลียดด้วยอารมณ์

บางครั้งเรารักด้วยอารมณ์ แต่มีกำลังน้อยกว่าความเกลียดด้วยเหตุผล
บางครั้งเราพยายามรักด้วยเหตุผล แต่ม่ีกำลังน้อยกว่าความเกลียดด้วยเหตุผล
บางครั้งเรารักด้วยอารมณ์ แต่มีกำลังน้อยกว่าความเกลียดด้วยอารมณ์
เมื่อไม่มีด้านใดมีกำลังมากกว่าอย่างเด็ดขาด ความขัดแย้งสับสนก็เกิดขึ้น

เราจะออกจากความขัดแย้งและสับสนได้ต้องมี สติ ปัญญา ที่หล่อเลี้ยงใจเรา
ต้องออกจากจุดเดิมให้ได้ เปิดกรอบที่ทาบทาเหตุผล เปิดกรอบที่เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงอารมณ์
เราจะเปิดกรอบได้ต้องกลับสู่ข้างในตน แล้วออกมาจากข้างใน จึงจะเป็นการออกจากกรอบเดิมได้ บางครั้งเราคิดว่าเราได้ออกมาแล้วจากกรอบเดิม แต่ความจริงเป็นว่า เราไม่ได้ออกจากกรอบนั้นเราเพียงหาสิ่งห่อหุ้มใหม่เพื่อให้ดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ภายในของเรายังเหมือนเดิม

เราต้องกล้าเข้าไปภายใน เพื่อระเบิดกรอบออกให้ได้ ทะลุกรอบได้เพียงนิด การระเบิดจะตามมา หากเราไม่ได้มาจากความเข้าใจ ความยั่งยืนจะไม่มี เราจะต้องอดทน หากเราเข้าใจแล้ว เราจะไม่ต้องอดทน พลังที่เสียไปกับความอดทนสามารถใช้อย่างอื่นได้อีกมาก

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คิดถึงแม่

เช้าวันนี้ ผมคิดถึงแม่ คิดถึงแม่เสมอทุกครั้งที่ผมมีความทุกข์
ไม่แปลกใจเลยที่เวลามีความสุข มักจะลืมคิดถึงแม่เสมอ
ไม่แปลกใจเลยที่ ลูกเมื่อมีความสุขก็จะไม่นึกถึงผมเช่นกัน

เมื่อมีความสุขผมมักคิดถึงภรรยาและลูก แต่ไม่ได้คิดถึงแม่
ผมรักแม่ ลุก และภรรยา เรามักละเลยสิ่งที่เรารักเสมอ

ระลึกได้เมื่อเขาไม่ต้องการเรา เมื่ออยู่กันพร้อมหน้า เรากลับมองหาสิ่งที่อยู่ไกล
เมื่ออยู่ไกล เรากลับคิดถึง

ผมยังเป็นโรคขาดรักอยู่เสมอ คิดถึงแม่ครับ

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒

กรองดวงใจ ด้วยธรรม นำความดี
นบพระศรี รัตนตรัย ตั้งใจมั่น
สรรสิ่งเป็น ปัญญา พาคืนวัน
ให้สุขสันต์ วันปีใหม่ ไปทุกกาล
ขออำนาจ สุจริต พิชิตคด
ขออดทน ทำลาย หายเกียจคร้าน
ขออ่อนน้อม นุ่มนวล ชนะมาร
ขอประสาน สามัคคี หมู่มีสุข
ปีเดือนวัน ผันผ่าน ธรรมดา
ความรักพา สัมพันธ์ สรรค์สนุก
ความรู้พา ผองเพื่อน ผ่านพ้นทุกข์
เร่งรุกรุด แลกเปลี่ยน แล้วเรียนรู้
ทบทวนตน บนใจ ใสสว่าง
เปิดหนทาง เปิดใจ ได้เปิดหู
เปิดตาแล้ว เปิดปาก ลองทำดู
ด้วยมือคู่ ควบสมอง ตรองพิจารณา
จึงปีใหม่ ให้เพื่อน พวกน้องพี่
สบสิ่งดี ด้วยตน ทุกคนหนา
ไร้ทุกขะ ภยะ และโรคา
สุขอุรา อารมณ์ดี ทุกปีเทอญ

ด้วยจิตน้อมน้อม
ทิพย์ พัชน์ศรี