วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

ชีวิตที่เหนื่อยอย่างต้องการเหนื่อย

ชีวิตท่ี่มีนับถึงวันนี้ ได้ 21065 วัน ทำงานกับองค์กรหนึ่งได้ยาวนานถึง 12821 วันในวันนี้ คิดเป็น 60.86 % ของชีวิตทั้งหมด
ตลอดเวลามาถามตนเองว่าเหนื่อยไหม ตอบกับตัวเองว่า ยังไม่เหนื่อย ยังไม่เมื่อยล้า สู้ต่อไป ในชีวิต ในการงานนี้ ณ วันนี้ ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก 995 วัน
ผ่านชีวิตวัยรุ่นที่ไร้จุดหมาย ผ่านกลางคนที่นึกว่ามีจุดหมาย แต่สุดท้ายยังไม่รู้ว่าจะไปหนได ทำงานมา มีชีวิตมา มีภาระ ผ่านวันไป มีความหมายไปวันต่อวัน
เข้าสู่บั้นปลายของชีวิตแล้ว ต้องสะสมกำลังเพื่อที่จะอยู่ต่อไป ในโลกที่ต้องอยู่น่ี้ มีครอบครัวที่น่ารัก น่าชื่นใจ มีวันเวลาที่ลดทอนความทุกข์ยากทางกายลง เพิ่มพูนความสามารถทางปัญญาบ้าง และไม่รู้จักเสียน้ำตาอีกแล้ว
ยังจะเหนื่อยไหม เตรียมตัวไว้ดีเพียงใดกับบั้นปลายชีวิต ต้องเป็นภาระให้แก่ครอบครัวไหม

ยังคงจะเหนื่อยอยู่ ตามที่ต้องการจะเหนื่อย อยากพักจะพัก เพราะประสบการณ์สอนให้รู้ว่าเมื่อผ่านการเหนื่อยหนึ่งครั้งจะเท่ากับการสร้างกำลังเพื่อสู้ได้อีกสองครั้งในความต้องการกำลังที่เท่ากัน
เตรียมตัวสำหรับบั้นปลายชีวิตไว้ในเรื่องกำลังใจ กำลังกาย ส่วนกำลังทรัพย์นั้นยังมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน บนความประมาทใช้เกินกำลังบ้าง ต้องฝึกอีกในช่วง 995 วันนี้
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่คิดว่าเป็นภาระให้ใครมานานมากแล้ว ทั้งทางด้านการงาน พ่อแม่ พี่น้อง และลูกเมีย (พ่อในที่นี้คือพ่อโดยการเลียงดู เพราะไม่ได้อยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิดตั้งแต่เกิดแล้ว )
แล้วจุดหมายในชีวิตคืออะไร

จุดหมายไกลๆ คือ นิพพาน ความสงบ มิใช่การฝากตำนานไว้ ไม่สนใจว่าใครจะกล่าวถึงอย่างไร ทั้งดีและไม่ดี
จุดหมายกลางๆ คือ ได้เกี้อกูลแก่ผู้คนด้วยกำลังและสติปัญญาที่มี ยะถา พะลัง ยะถา ปัจจะยัง
จุดหมายใกล้ๆ คือ ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด
ต้องพยายาม ทำ ด้วยสติ สมาธิ บนฐานความเกื้อกูล เมตตา ปรับรับตามสภาพที่เปลี่ยนแปลง ไม่หวั่นไหว มั่นคง ตรงต่อธรรม
ดังนั้นในชีวิตที่เหลืออยู่ คงจะเหนื่อยอย่างที่ต้องการเหนื่อย
แต่เปี่ยมด้วยความสุขที่ได้เกื้อกูล เมตตา และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น