วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

ในคืนพระจันทร์เพ็ญแห่งเดือนมาฆะ

คืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 ในการเดินทางจากบ้านลำปางมายังนนทบุรีเพื่อเดินทางต่อไปยังสุราษฎร์ธานี เป็นการเดินทางที่มัวเมาอีกครั้งหนึ่งให้สมกับที่เป็นนักเลงสุรา
พบเจอกับเพื่อนเก่ารุ่นน้อง มากับเพื่อนที่ทำงานทั้งสองคนชื่อเหมือนกัน ทำงานที่เดียวกัน คนหนึ่งจะไปซ้อมรับปริญญาโทที่กรุงเทพ อีกคนจะไปอบรมเรื่องเกี่ยวกับ HR ทั้งสองคนทำงานในสถานที่ที่คนในที่ทำงานมีสถานะไม่เท่าเทียมกัน มีชั้นวรรณะซึ่งควรจะหมดไปแล้ว วรรณะหนึ่งเป็นอาจารย์ อีกวรรณะหนึ่งเป็นพลเรือนทั้งสองเป็นข้าราชการเหมือนกัน แต่ความแบ่งแยกถือดีในวรรณะยังคงมี แล้วตามด้วยการเพ่งในความเหนือกว่า นำมาซึ่งการเข้าสู่อำนาจในสถาบันนั้นๆ เป็นธรรมดาของสังคมไทยผู้เหนือกว่าต้องการอำนาจที่มากกว่า เพื่อให้ได้ความจงรักภักดี นำสนองระบบอุปถัมป์ให้ยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป ให้และรับอย่างผิดทาง บนความเชื่อในอำนาจที่เหนือกว่า สร้างทางลัด แหกกฏ เหนือเกณฑ์ เป็นใหญ่ เป็นวัฒนธรมใหญ่ในสังคมไทยที่ยังยืนได้รับการยอมรับเสมอมา
ผมแนะนำน้องที่จบปริญญาโทให้เรียนต่อปริญญาเอก และแนะนำให้น้องที่จะไปอบรม HR ให้หาวัตถุประสงค์ของ HRM ให้เจอในการอบรม
เราสนทนากันหลายเรื่อง และส่วนหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาพการณ์ในสถาบันหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่ามีส่วนคล้ายกันบ้างกับสถาบันที่ผมทำงานอยู่อาจเป็นเพราะเป็นสถาบันในประเทศเดียวกัน ประเทศที่มีหลายมาตรฐานภายใต้มาตรฐานเดียว (Millitary Standard) ประเทศที่มีระบบอุปถัมป็์ศักดินาข้าไท...
เราสนทนากันในตู้เสบียงของรถเที่ยวล่อง ขบวนที่ 14 ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองของชาวต่างชาติหลายคนที่ Happy Birth Day ให้กับเพือน เพลงดัง เต้นรำ เสียงดังเกิน 80 เดซิเบล แน่นอน จบการสนทนาตอนพนักงานประจำตู้เชิญเราให้กลับตู้เขาจะปิดแล้ว เรากลับกันด้วยดี
นอนหลับไปในการไกวตัวของรถไฟ เหมือนหลับไหลในเปลที่แม่แกว่งไกวอีกครั้ง (พอเราหลับแม่หยุดไกว แต่รถไฟไม่)รถถึงอยุธยาตอน 05:22 น. รอลงรถไฟที่สถานีบางซื่อต่อไป
ให้ข้อแนะนำน้องๆ แต่ยังไม่ได้แนะนำตนเอง ยังคิดไม่ออกครับ